10.21.2555

นวดแผนไทย


นวดแผนไทย
นวดแผนไทย เป็นกระบวนการดูแลสุขภาพอย่างหนึ่ง โดยอาศัยการสัมผัสอย่างมีหลักการ และประกอบด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น สถานที่สะอาดสะอ้านสร้างความรื่นรมย์และผ่อนคลายให้ผู้ที่ไปนวด ทั้งนี้สามารถแบ่งรูปแบบการนวด ได้ดังนี้


1.นวดผ่อนคลาย
การนวดผ่อนคลาย เป็นการนวดที่ถูกสุขลักษณะตามแบบฉบับของแผนไทยโบราณ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อร่างกายและผิดใจ คือ ตั้งแต่ทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดลม คลายกล้ามเนื้อที่ตึงล้า รักษาอาการปวดเมื่อยดามร่างกายคลายเครียด เคล็ดขัดยอก ช่วยให้สุขภาพกระปรี้กระเปร่า จิตใจผ่อนคลาย

2. การนวดตัว
อาจแบ่งออกเป็นแบบยืดดัด การนวดแบบจับเส้น การนวดแบบกดจุดการนวดเพื่อบำบัดอาการปวดเมื่อยเฉพาะจุด หรือตามข้อต่อ การยึดติดของพังผืดในร่างกายให้ทุเลา

3. การนวดน้ำมัน 
เป็นการนวดโดยใช้น้ำมันสมุนไพรชโลมร่างกาย แล้วใช้เทคนิคการรีดไล้เส้น ความร้อนจากน้ำมันนสมุนไพรซึมซาบเข้าผิวหนังและไปถึงกล้ามเนื้อช่วยให้รู้สึกเบาสบายตัว จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดและทำให้ระบบต่างๆ ทำงานดีขึ้น บรรเทาอาการนอนไม่หลับ น้ำมันบริสุทธิ์ยังช่วยบำรุงผิว และกระชับรูปร่างไม่ให้กล้ามเนื้อหย่อนยาน ช่วยสลายไขมันไม่ให้สะสมตามที่ต่างๆ ของร่างกาย

4. นวดฝ่าเท้า/นวดเท้า
เป็นการปรับสมดุลในร่างกาย เนื่องจากมีจุดสะเทือนของอวัยวะภายในร่างกายที่ฝ่าเท้า
และเท้า การนวดฝ่าเท้าและเท้าจึงเป็นการช่วยให้ระบบการไหลเวียนไปยังอวัยวะต่าง ๆ
ภายในร่างกายได้ดีขึ้น ส่งผลให้มีการขับถ่ายของเสียออกจากเซลล์ปรับสภาวะสมดุลของ
ร่างกาย ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น การนวดฝ่าเท้ายังแบ่งออกเป็นการนวดเท้าด้วยมือ
การนวดเท้าด้วยไม้กดจุด การนวดเท้าด้านในด้านนอกด้วยมือ การนวดหลังเท้า การใช้ไม้กดจุดด่าง ๆ การนวดบริเวณเข่า การนวดหน้าแข้งและน่อง การนวดนิ้วเท้า การกระตุ้นเท้าช่วงสุดท้าย และการกระตุ้นเท้าก่อนแกะผ้าพันเท้าออกและเช็ดด้วยครีม


5. นวดสปอร์ต
การนวดคลายกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บเนื่องจากการออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป ทำให้เกิดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน หรืออาการล้าตามกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดตะคริว คอร์สนวดคลายเส้นแบบนักกีฬา

6. การนวดเพื่อการรักษา
สำหรับรักษาหรือบรรเทาปัญหาสุขภาพ เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้นมักใช้การนวดด้วยน้ำมันรักษาโรคแล้วตามด้วยการประคบสมุนไพร หากเป็นสมุนไพรสดจะให้สรรพคุณที่ดีกว่าสมุนไพรแห้ง แต่ส่วนใหญ่จะใช้ลูกประคบสำเร็จรูปซึ่งเป็นสมุนไพรแห้งหลายชนิดมาโขลก แล้วห่อผ้าทำเป็นลูกประคบจากนั้นนึ่งด้วยความร้อนแล้วนำไปประคบดามร่างกาย

7. การนวดแบบทั่วไป (นวดเชลยศักดิ์)
หมายถึง การนวดโดยวิธีของสามัญชนในสมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบันที่ได้รับการฟื้นฟูให้เป็นที่นิยมโดยทั่วไป ก่อนเริ่มต้นนวด หมอจะต้องพนมมือเพื่อไหว้ครูเสียก่อน ในขณะที่ผู้ป่วยนอนอยู่กับพื้น (ฟูกหรือเสื่อ) หลังจากนั้นหมอจึงเริ่มต้นนวด จากเท้าขึ้นไปที่หัวเข่า ไปสู่โดนขา และนวดท้อง หลัง ไหล
ต้นคอ และศีรษะ

8. การนวดแบบราชสำนัก
เป็นการนวดเพื่อถวายกษัตริย์และเจ้านายชั้นสูงในราชสำนัก ผู้นวดต้องเดินเข่าเข้าไปหาผู้ป่วย ซึ่งนอนอยู่บนพื้น เมื่ออยู่ห่างจากผู้ป่วยไม่น้อยกว่า 4ศอก จนห่างจากผู้ป่วยราว 1 ศอก จึงนั่งพับเพียบ และคารวะขออภัยผู้ป่วยโดยการไหว้หรือการกราบ หลังจากนั้นผู้นวดจะคลำชีพจรที่ข้อมือและหลังเท้า
ข้างเดียวกันเพื่อตรวจดูอาการของโรค โดยพิจารณาจากการเดินของชีพจรทั้งสองแห่ง ที่เรียกว่า ลมเบื้องสูงและลมเบื้องต่ำ เสียก่อนว่าเสมอกันหรือไม่แล้วจึงเริ่มทำการนวดที่ต้องเน้นความสุภาพอย่างมาก

ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างการนวดแบบทั่วไปกับการนวดแบบราชสำนัก

นวดแบบราชสำนัก
1 ต้องมีกิริยามารยาทเรียบร้อยมากสำรวมมาก
2. เริ่มนวดตั้งแต่ใต้เข่าลงมาหาข้อเท้า หรือจากต้นขาลงมาถึงเท้า ยกเว้นจำเป็นจริงๆจึงเริ่มต้นนวดตั้งแต่หลังเท้าขึ้นไป
3.ใช้เฉพาะมือนิ้วหัวแม่มือและปลายนิ้วอื่น ๆในการนวดเท่านั้น และไม่ใช้การนวดคลึง แขนจะต้องเหยียดตรงเสมอเพื่อน้ำหนักจะได้ลงที่หัวแม่มือ
4.ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่ง นอนหงาย หรือนอนตะแคงขณะรับการนวด แด่ไม่ให้ผู้ป่วยนอนคว่ำเลย
5.นวดแบบราชสำนัก ไม่ใช้การดัดหรือการงอข้อ หลัง หรือส่วนใดของร่างกาย
ด้วยกำลังแรง จะไม่มีการนวดโดยใช้เข่าข้อศอก
6.หมอนวดแบบราชสานัก ต้องการให้เกิดผลต่ออวัยวะและเนื้อเยื่อที่อยู่ลึก ๆ โดย
การเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต เพิ่มการทำงานของเส้นประสาท ผู้นวดต้อง
มีดวามรู้ทางกายวิภาคศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญในการนวด


นวดแบบทั่วไป (นวดเชลยศักดิ์)
1. นวดด้วยความสุภาพเยี่ยงสามัญชนทั่วไป มีความเป็นกันเอง
2.เริ่มสวดที่ฝ่าเท้าขึ้นไปหาลำตัว
3. หมอนวดแบบทั่วไป มิได้คำนึงถึงท่าทางของแขนว่าจะตรงหรืองอ
4. นวดแบบทั่วไป มีการให้ผู้ป่วยนอนคว่ำด้วยและนอนหงายด้วย
5.นวดแบบทั่วไป ไม่เว้นการปฏิบัดิ
ดังกล่าว และอาจมีหมดนวด 2 คนช่วยกันนวดผู้ป่วยคนเดียว
6. หวังผลโดยตรงจากการกดเป็นส่วนใหญ่และการนวดคลึงเป็นครั้งคราว หากความรู้ไม่ดีพออาจเกิดอันตรายได้ เช่นการหลุดของข้อต่อกระดูก การเขียวช้ำของกล้ามเนื้อหรือเส้นเลือดฝอยแตกได้

รูปแบบการนวดที่กล่าวมาเป็นบริการที่สถานประกอบการส่วนใหญ่ให้บริการ ผู้ประกอบการอาจจัดให้มีบริการมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้  แด่โดยทั่วไปธุรกิจขนาดเล็กจะเน้นการนวดดัวและฝ่าเท้าเป็นหลัก
การกำหนดอัตราค่าบริการ ตามปกติสถานประกอบการมักจะคิดค่าบริการนวดแผนไทยตามชั่วโมงการนวด ค่าบริการของแต่ละแห่งอาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ให้บริการและค่าบริการของคู่แข่งในย่านเดียวกัน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น