8.18.2553

เสน่ห์ของธุรกิจสปา

spa

มีคำกล่าวที่ว่า “You cannot mix business with pleasure” การได้ทำในสิ่งที่เรารักและความรักในสิ่งที่เราทำต่างหากที่เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตและยั่งยืนความสนใจ เอาใจใส่ในรายละเอียดและความตั้งใจเป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงให้ธุรกิจเติบโตสวยงาม เวลามีปัญหาหรืออุปสรรคเราก็จะไม่ท้อแท้หรือล้มเลิกง่ายๆ เพราะเรามีความรักให้กับมัน และมันเป็นรากฐานที่สำคัญมากๆ ในการที่เราจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง เราต้อง “Mixbusiness with pleasure” ถ้าเรารักในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่รัก และมีความสุขไปกับมัน ชีวิตคงมีความสุขไม่น้อย ทำแล้วจะมีอุปสรรคอะไรบ้างก็ยังรู้สึกว่ามันสนุก ไม่
น้อยเลย สปาก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีๆ ที่ได้ทำ

สปาเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวิถีการดำเนินชีวิตที่ดีๆ เป็นการฟงความสุข และช่วยเติมพลังให้กับข้คน สปาเป็นธุรกิจที่ทำให้เราได้เข้าใจธรรมชาติของชีวิต ทำให้เรารู้ว่าการกลับสู่สมดุลนั้นเป็นอย่างไร การใช้ชีวิตอย่างมีสมดุลนั้นมีผลดีกับร่างกายและจิตใจของเรามากแค่ไหน

สปาเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้คน และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ไม่ได้เน้นแค่การบำบัดรักษา ดูแลแต่เพียงร่างกายหรือจิตใจ แต่เป็นการนำเอาศาสตร์ต่างๆ ทั้งใหม่และเก่ามาประยุกต์ เพื่อการดูแลทุกๆ ส่วนที่ประกอบกันเป็นผู้คน และในขณะเดียวกัน ผู้รับการบำบัดก็ต้องมีส่วนรวมในกระบวนการบำบัดรักษาด้วยตนเองด้วยสปาจึงเป็นการช่วยเหลือให้ผู้มารับบริการได้ประสาน กาย ใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สุขภาพกายและใจ วิถีแห่งสปาจึงอาจเกิดได้ด้วยความเอื้ออาทร ความใส่ใจที่จะศึกษาและนำเอาวิธีการต่างๆ มาใช้ให้เกิดผลในการบริการ ซึ่งต้องอาศัยการเรียนรู้และพัฒนา
อยู่ตลอดเวลา

สปาที่ดีจึงต้องเกิดจากความรักในวิชาชีพ ความสนใจในเรื่องของสุขภาพและความใส่ใจในการส่งมอบความรู้สึกที่ดีให้กับผู้คน ซึ่งนี่คือสิ่งเป็นเสน่ห์ของธุรกิจสปาที่ผสมผสานทั้งธุรกิจและความเอื้ออาทรเอาใจใส่ซึ่งกันและกันเอาไว้ด้วยกัน เป็นงานที่รวมเอาศาสตร์และศิลปะให้เป็นหนึ่งเดียว เป็นสุนทรียภาพที่เกิดจากการบริหารจัดการที่ดี เป็นธุรกิจที่แค่ความเป็นมืออาชีพคงยังไม่เพียงพอ ต้องมี passion ที่จะเรียนรู้้เติบโตและส่งมอบสิ่งดีๆให้กับผู้มารับบริการด้วย ธุรกิจสปาจึงเป็นธุรกิจที่นอกจากจะส่งมอบบริการเพื่อสุขภาพที่
ดีมีสมดุลแล้ว ตัวของธุรกิจเองยังต้องบริการจัดการอย่างมีสมดุลในทุกๆด้านจึงจะสามารถสร้างสรรค์ Spa Experience ดีๆ ที่น่าประทับใจขึ้นมาได้

8.13.2553

คอร์สอบรมสปาทีน่าสนใจสำหรับผู้ต้องการทำธุรกิจสปา

คอร์สอบรมสปาทีน่าสนใจสำหรับผู้ต้องการทำธุรกิจสปา

1.แมนดาราสปา:
เป็นสภาใน “โรงแรมแมริออท สปา” มีต้นตำรับมาจากประเทศอินโดนีเซีย มีสาขาไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เข้ามาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อปี 1999 ก่อน
ที่จะขยายไปยังสาขาอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ อีก 3 แห่งที่หัวหิน และภูเก็ตอีก 3 แห่ง มีเทรนนิ่งเซ็นเตอร์ ที่เป็นโรงเรียนเปิดคอร์สเกี่ยวกับการนวดเปิดสอนผู้ที่สนใจทั่วไป
หลักสูตร 3 เดือน เริ่มตั้งแต่การนวดหน้า นวดน้ำมัน การดูแลรับรองแขก อธิบายโปรแกรมต่าง ๆ ให้กับแขก รวมทั้งต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่าสปาด้วย

2.ร.ร. สอนวิชาชีพความงามและสปา “ชีวาศรม”:
หลักสูตรที่ชีวาศรมเปิดสอน เป็นหลักสูตรสำหรับผู้สนใจต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับ ธุรกิจสปาแบบครบวงจร แต่ละหลักสูตรจะเปิดรับนักเรียนห้องละ 10-12 คน
เพื่อให้ได้การเรียนการสอนที่มีคุณภาพที่สุด สอนโดยครูผู้สอนทีมีประสบการณ์ทางด้านวิชาชีพตามมาตรฐาน lnternational Certificate ซึ่งเป็นเครื่องรับรองคุณภาพของครูที่สอนด้านสปา
ซึ่งเป็นครูฝึกให้กับพนักงานของชีวาศรมมาโดยตลอด ใช้เวลาเรียน 1 ปีแห่งการเรียนเป็น 3เทอม โดยเน้นทั้งภาคทฤษฎีและการปฏิบัติ ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องลงเรียนครบทั้ง 3โปรแกรม
สามารถเลือกหลักสูตรย่อยตามความสนใจของตัวเอง โดยขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการทำงานและการประกอบธุรกิจ อาทิ ต้องการเปิดสปาเน้นดูแลความสวยงามหรือ เพื่อสุขภาพ เป็นต้น

3.ภเก็ต สปา อแคเดมี (Phuket Academy)
โรงเรียนสปาเต็มรูปแบบ บริหารงานโดย “รอยัลสปา” ซึ่งเป็นสปาชื่อดังของภูเก็ต ร่วมกับสถานวิชาการนานาชาติ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการพัฒนารวบรวมนเละทำหลักสูตรเกี่ยวกับสปามานานแล้ว เป็น “โรงเรียน สอนบุคลากรในธุรกิจสปาอย่างครบวงจรเเละได้มาตรฐาน
สถาบันแห่งนี้ตั้งอยู่ใน Boat Lagoon ฎเก็ต

4.สปา ออฟ สยาม เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ (Spa of Siam Training Center)
สถาบันอบรม Therapist เพื่อผลิตบุคลากรป้อนธุรกิจสปาที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเพื่อสนับสนุนธุรกิจสปาในเครือของสปา ออฟ สยาม

5.หลักสูตรนวดแผนไทยโดยกระทรวงสาธารณสข:
ทางกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมพัฒนาแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับการนวดไทยขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการส่งเสริมของ
รัฐบาลในการนำสปาและนวดไทยสู่ระดับสากล หลักสูตรการเรียนดังกล่าวประกอบด้วย 7 หลักสูตร ได้แก่
1. หลักสูตรการนวดเท้าเพื่อสุขภาพ 80 ชั่วโมง
2. หลักสูตรนวดเท้าสำหรับผู้พิการทางสายตา 80 ชั่วโมง
3. หลักสูตรการนวดเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง
4. หลักสูตรนวดแผนไทย 372 ชั่วโมง
5. หลักสูตรนวดแผนไทย 800 ชั่วโมง
6. หลักสูตรนวดแผนไทย สำหรับผู้พิการทางสายตา 1,200 ชั่วโมง
7. หลักสูตรนวดไทยสำหรับแพทย์ 65 ชั่วโมง

ผู้ที่ผ่านการอบรมและจบหลักสูตรกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ จะได้รับใบประกาศนียบัตรรับรองที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุขให้
สนใจติดต่อได้ที่ กระทรวงสาธารณสุข โทร. 02 590 1000 และ 02 591 8300-29

6.สถาบันฝึกอบรมไทยเดย์สปา (Thai Day Spa Academ ):
เป็นมืออาชีพด้านผู้ให้คำปรึกษา (Consultant) ด้านธุรกิจสปา รูปแบบการบริการครบระบบตั้งแต่อบรมบุคลากรอย่างมีมาตรฐาน พัฒนาให้เป็น Therapist มืออาชีพ ซึ่งเป็นปัจจัย
สำคัญสำหรับการเปิดกิจการสปา อีกทั้งแก้ไขปัญหาการหมุนเวียนและขาดแคลนบุคลากรพร้อมการนำรูปแบบแนวคิดของสปา ( spa concept) การตกแต่ง
การวางระบบ การจัดขือ ด้านการตลาด โฆษณาประชาสัมพันธ์ มีสปาต้นแบบคือ ไบโอโบเต้ เดย์สปา (Bio Beaute' Day Spa) ที่ อาคารเลครัชดา ออฟฟิศคอมเพลกซ์
เยื้องศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นร้านที่ติดอันดับ “ร้านต้นแบบ”(Day Spa Prototype) ของกรมส่งเสริมการส่งออก และยังได้รับการจัดให้เป็น
เอสเอ็มอี ตัวอย่างของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสถาบันพัฒนาเอสเอ็มอีอีกด้วยติดต่อได้ที่ และ www .thaidayspa.com หรือ E-mall. wimolrat@hotmall.com ,thaidayspa@homall.com

ที่มา Spa Ido หนังสื้อคู่มือการทำธุรกิจสปา

8.06.2553

บริการพื้นฐานในสปา

spa

บริการพื้นฐานในสปา
สปาประกอบด้วยบริการที่หลากหลายแต่ละแห่งเทคนิค ผลิตภัณฑ์ แนวทาง
บรรยาากาศ ฯลฯ ที่แตกต่างกันไปตามแต่รสนิยม ความชำนาญ และความต้องการ
ของตลาด ซึ่งก็มีมากมายหลายหลากชนิด

องค์ประกอบพื้นฐานของบริการสปาจะเหมือนกัน ดังนี้
• การจัดบรรยากาศที่เนมาะสมในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
• การบำบัดด้วยน้ำ
• การบำบัดด้วยการแพทย์ทางเลือกอื่น ๆ
• การนวด
• ผู้ให้บริการ
จากองค์ประกอบข้างต้น สปาแต่ละแห่งก็จะนำมาแตกรายละเอียดของบริการ
ออกไปตามทักษะ Business concept (แนวธุรกิจ) และความสนใจ แต่ละประเทศ
ก็จะมีเทคนิค วิธีการดำเนินการที่แตกต่างกันไป ส่วนประเทศไทยเราเป็นชาติแรกที่มีการกำหนดมาตรฐานการบริการสปาเพื่อสุขภาพออกมาอย่างชัดเจนโดยกำหนดขื้นมาเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุข ตามพ.ร.บ สถานบริการ พ.ศ. 2509 (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 พ.ศ. 2547) ว่า “กิจการสปาเพื่อสุขภาพ หมายถึงว่า การ
ประกอบกิจการที่ให้การดูแล และเสริมสร้างสุขภาพโดยบริการหลักที่จัดไว้ ประกอบ
ด้วยการนวดเพื่อสุขภาพและการใช้น้ำเพื่อสุขภาพโดยอาจมีบริการเสริมประกอบด้วย เช่น การอบเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โภชนาบำบัด และการ ควบคุมอาหาร โยคะ และการทำสมาธิ การใช้สมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตลอดจนการแพทย์ทางเลือกอื่นๆ หรือไม่ก็ได้” อย่าเพิ่งงงนะคะ เพื่อไม่ให้สับสน
เราขอแนะนำถึงบริการหลักๆ ที่ใช้กันในสปาส่วนใหญ่ไว้ให้เป็นไอเดีย (จริงๆ มีเยอะ
กว่านี้ มากจนจาระไนไม่หมดเลยค่ะ) ซึ่งการให้บริการสปาโดยพื้นฐาน จะประกอบ ไปด้วยทรีตเมนต์ต่างๆ ดังนี้
• การบำบัดด้วยน้ำ หรือวารีบำบัด (Hydrotherapy) ได้แก่การอบไอน้ำซาวน่า ห้องสตีม บ่อน้ำแร่ บ่อน้ำวน ประเภทจากุชชี่ หรืออ่างพิเศษที่ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของโลหิต และเป็นการบริหารฝ่าเท้า
• การบำบัดด้วยมือโดยการนวด (Massage): เป็นการสัมผัสที่สร้าง
ความผ่อนคลายให้แก่กล้ามเนื้อส่วนต่างๆในร่างกายมีทั้งการนวดแบบแห้งและการนวดที่ใช้น้ำมันหอมระเหย

• พฤกษาบำบัด (Aromatherapy): เป็นการใช้กลิ่นของพืชพรรณธรรมชาติช่วยให้คลายเครียด สงบ สดชื่น ผ่านการนวดตัว หรือจุดสมุนไพรให้กลิ่นหอมระเหยสำหรับสูดดม
• บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง: รวมถึงการให้บริการด้านความงาม สุขภาพ การ ออกกำลังกาย พอกหน้า ขัดผิว ฯลฯ

บริการพื้นฐานในสปาแต่ละแห่งต้องสามารถตอบความต้องการพื้นฐานของผู้ใช้บริการได้ดังนี้
• Time to relax ทำให้ผู้ใช้บริการรู้สึกผ่อนคลาย
• Time to reflect สามารถสร้างบรรยากาศที่ร่นรมย์ มีสิ่งแวดล้อมที่สะท้อนความรู้สึกดีๆ ก่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ต่อแขกผู้มาเยือน
• Time to revitalize ทรีตเมนต์ต่างๆต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้เติมพลังให้กับตัวเอง
• Time to rejoice ให้ความสดชื่นเบิกบาน จากองค์ประกอบทั้งหมด เช่น น้ำ
กลิ่น บรรยากาศ และการนวด

ที่มา หนังสือคู่มือการทำธุรกิจสปา Spa Ido