4.19.2554

มารยาทในการนวด

การทำสปานั้นการนวดหรือถุกเนื้อต้องตัว ลูกค้าเป็นเรื่องปกติ ผู้นวดต้องรู้เรื่องมารยาทในการนวด

ก่อนทำการนวด ผู้นวดควรสำรวมจิตใจให้เป็นสมาธิ สำหรับการนวดแบบราชสำมักจะมีการยกมือไหว้ผู้ถูกนวด เพื่อเป็นการขอขมาที่ล่วงเกินบนร่างกาย

ขณะนวด ควรนั่งห่างจากผู้นวดพอสมควร ในด้านที่จะทำการนวด ไม่ควรคร่อมตัวผู้ถูกนวด สำหรับการนวดแบบราชสำนัก จะเดินเข่าเข้าหาผู้ถูกนวดอย่างน้อย 4 ศอก และนั่งห่างจากผู้ถูกนวด ประมาณ 1 ศอก และจับชีพจรอย่าหายใจรดผู้ถูกนวด สำหรับการนวดแบบราชสำนัก ได้มีคำกล่าวไว้ว่าแม้ลมหายใจ ไม่ให้รดพระวรกายขณะทาการนวด จึงมักจะหันหน้าตรงไปข้างหน้า โดยไม่ก้มหน้า และไม่เงยหน้ามองฟ้า อันเป็นการแสดงความไม่เคารพ ขณะทำการนวด ห้ามทานอาหารหรือเครื่องดื่ม และระมัดระวังคำพูดทีอาจทำให้ผู้ถูกนวดตกใจ สะเทือนใจ สังเกตอาการผู้ถูกนวดอยู่เสมอ ควรหยุดเมื่อผู้ถูกนวดขอให้พัก หรือเจ็บปวดจนทนไม่ไหวเมื่อผู้นวดไม่สบาย มข้ เจ็บป่วย ไม่ควรรับนวด และหากการนวดเพื่อ บำบัดนั้นเกินความสามารถของตนเอง ควรส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญ

ข้อควรระวังในการนวด-ในกรณีที่นวดท้อง ไม่ควรนวดผู้ทีรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ (ไม่เกิน 30 นาที)
-ไม่นวดอย่างรุนแรงหรือนานเกินไป เพราะอาจเกิดการอักเสบ ฟกชา
มากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อ เช่น หน้าหู ใกล้กระดูกไหปลาร้า รักแร้ เป็นต้น
-กรณีผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวาน โรคความดันโลหิตสง ต้องระมัดระวังในการนวด ในกรณีเป็นความดันโลหิตสูงและ
เส้นเลือดแดงที่ท้องเป็นกระเปาะ ไม่ควรกดท้อง เพราะเส่ยงต่อการทำให้หลอดเลือดแดงใหญ่ที่ท้องปริแตกจนมีอันตรายถึงเสียชีวิตได้
-ไม่ควรนวดผู้ที่มีอาการอักเสบดิดเชื้อ คือ มีไข้มากกว่า 37 องศาเซลเซียส ปวด บวม แดง ร้อน
-ไม่ควรนวดผู้ที่เพิงประสบอุบัติเหตุใหม่ ๆ ควรได้รับการช่วยเหลือ
ข้างต้น และตรวจวินิจฉัยภาวะแทรกซ้อนต่างๆ หากเกินความสามารถควรประสานความร่วมมือกับแพทย์แผนปัจจุบัน
-หากมีการดัดหรือดึงร่วมด้วยจะต้องระวังมาก การดัดหรือดึงที่คออาจ
ทำให้กระดูกคอทับเส้นประสาทได้ การดัดหลังอย่างรุนแรงอาจทำให้
มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ ซึ่งหากมีเส้นประสาทอยู่ใกล้จะได้รับอันตรายไปด้วย
-การเปิดปิดประตูลมไม่ควรกดนานกว่า 45 วินาที และอย่าใช้แรงกดมากเกินไป เพราะอาจทำให้หลอดเลือดช้ำอักเสบ รวมทั้งเส้นประสาท
ขาดเลือดไปเลี้ยงนานเกินไป ทำให้เกิดอาการชา

**ข้อบ่งชี้ในการนวคแผนไทย
-การบวมที่ไม่ได้เกิดจากการอักเสบ แต่เป็นเพราะการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองไม่ดี
-อัมพาต เช่น ตาหลับไม่ลง ยักคิ้วไม่ได้ ปากเบี้ยว ขากรรไกรค้าง คางห้อยลง อ้าปากไม่ขึ้น เป็นต้น
-หูอื้อ ลมออกหู มีเสียงดังในหู
-นวดเพื่อให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายปัสสาวะดีขึ้น
-กระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น คอดกหมอน คอเอียงในเด็กเล็ก หัวไหล่ติดหัวไหล่เคลื่อน ข้อศอกเคลื่อน ข้อมือเคลื่อน ข้อผิดเพราะไม่ได้ใช้งานมือตก นิ้วมือซ้น กระดูกสันหลังคด แอ่นหรือหลังงอ หลังค่อม ลูกสะบ้าเคลื่อน ข้อเท้าแพลง กล้ามเนื้ออักเสบจากการกีฬา เป็นต้น
-ดานเลือด: มีเลือดคั่งค้างในโพรงมดลูก
-ดานลม: ท้องผูก อุจจาระแข็ง กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ปลายมือปลายเท้า ชา
-มดลูกเคลื่อน มดลูกตะแคง มดลูกต่ำ คือ มดลูกเคลื่อนตัวไปทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อย มดลูกลอย คือ มดลูกเคลื่อน
ตัวสูงขึ้น ลักษณะคือ ผายลมทางช่องคลอด

**ข้อห้ามในการนวค
ในกรณีที่มีอาการเหล่านี้ ห้ามทำการนวด
-โรคติดเชื้อ มข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว
-โรคผิวหนัง เพราะจะทำให้เชื้อแพร่ออกไปบริเวณอื่น และแพร่มาHูผู้นวด ด้วย
-ขณะมีอาการอักเสบ เพราะจะทำให้การอักเสบมากขึ้น
-บริเวณที่มีบาดแผลห้ามนวด อาจทำให้แผลช้ำ หรือแผลปริแยก
-บริเวณที่เป็นมะเร็ง จะทำให้มะเร็งแพร่ออกไป

4.01.2554

ประโยชน์ของการนวด

การนวด มีมาตั้งแต่โบราณ ในแทบทุกทวีปของโลก เป็นการบำบัดที่เอาใจใส่ทั้งทางร่างกายจิตใจและอารมณ์ ศาสตร์แห่งการนวดบอกไว้ว่า การนวดที่ ดีต้องทำอย่างตั้งใจ มีความรักและความเมตตา ใส่จิตใจลงไปในขณะที่นวดด้วยจังหวะและการลงน้ำหนักมือในการนวดจะเป็นไปตามความรู้สึกของผู้นวด ผู้ทำการนวดที่ดีจะมีมืออุ่น แสดงว่ามีพลังงานมาก ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า คิ ความหมายเดียวกับภาษาจีนว่ามีพลัง ชี” ถ่ายทอดให้กับคนอื่นได้

ญี่ปุ่นมีการนวด ขิดซึ (shiatsu) สวีเดนมีการนวดสวีดิชไทยมีนวดแผนไทย ประโยชน์ของการนวด ไม่ว่าจะเป็นการนวดของไทย ญี่ปุ่น สวีดิช จะมีประโยชน์คล้ายกัน ดังนี้


การนวด


- ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนคล่อง การไหลเวียนทั่วร่างกายดีขึ้น เลือดสามารถนำออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยงHวนต่าง ๆภายในร่างกายได้อย่างทั่วถึง


- ระบบขับของเสียไม่ว่าจะเป็นทางน้ำเหลือง และหลอดเลือดทำงานอย่างมีประสทธิภาพ ไม่สะสมพิษตกค้างไว้มาก สองภาพก็ดีขึ้น - ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อบริเวณที่ใช้งานหนักจะเกิดการเกร็งตัวและมีสารเคมีคั่งค้างอยู ทำให้เลือดมาหลอเลี้ยงไม่สะดวก เกิด อาการปวดเมื่อยตามมา การนวดช่วยให้หายปวดเมื่อย เพราะไปคลายกล้ามเนื้อที่แกร่งให้ผ่อนคลายลง


- การนวดเป็นการกระตุ้นให้รัฌบบน้ำเหลืองทำงานได้ดีอีกด้วย โดยปรกติแล้วน้ำเหลืองจะไหลเวียนดีจากการที่ร่างกายเคลื่อนไหว หรือ จากแรงภายนอกมากระตุ้น เมื่อนวดตามตัว ต่อมน้ำเหลืองทั่วร่างกายก็ถูกกระตุ้นให้ทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันและจัดการกับเชื้อโรคต่างๆ


การนวดช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานเป็นปกติ

เด็กที่ได้รับการนวด เมื่อถูกสัมผัสอย่างอบอุ่นดัวยการนวด อวัยวะต่างๆได้มีการเคลื่อนไหว ระบบต่างๆภายในตัวเขาก็จะทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งระบบ ย่อยอาหารก็จะดีตามไปด้วย จึงเกิดความรู้สึกอยากอาหารเพิ่มขึ้น เพราะกระเพาะอาหาร ลำไส้และอวัยวะส่วนที่ทำหน้าที่ย่อยเเละดูดซึมมีการเคลื่อนไหว ช่วยเรื่องการขับถ่าย ทำให้มีพัฒนาการที่ดี เพราะสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้นผิวหนังถูกกระตุ้นให้ทำงาน ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันที่ผิวหนังทำงานผลิต น้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวได้ดียิ่งขึ้น น้ำมันบางชนิดที่ใช้นวดบำรุงผิวพรรณได้ด้วย สร้างความผ่อนคลาย เมืองก็รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สงบ บางคนสบายตัวสบายใจจนอยากนอนหลับ ในโรงพยาบาลบางแห่งใช้การนวดเพื่อบำบัดความ เครียดและความรู้สึกซึมเศร้าให้คนไข้ที่นอนป่วยอยู่บนเตียงทั้งวันทั้งคืน การนวดในลักษณะของการบำบัดรักษาโรค เช่น ปวดเรื้อรังตามตัว ปวด ศีรษะ นอนไม่หลับ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง สมาธิสั้น ไซนัสอักเสบและอีก หลายๆโรคทีเดียว ซึ่งผู้นวดต้องมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะเหมาะกับคุณแม่หลังคลอด


การนวดเพื่อผ่อนคลายจะช่วยให้สบายตัว คลายปวดเมื่อยและอารมณ์ดีขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อหลัง ท้อง ต้นขาที่เกร็งตัวได้มีโอกาสหลายตัว และระบบไหลเวียนทั่วร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ทั้งนำของ เสยตกค้างออกจากร่างกาย และนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆทั่วถึงการนวดจะช่วยลดอาการของเส้นเลือดขอด ริดสีดวงทวาร อาการบวมตามตัว และอาการปวดหลัง หรือปวดเอว การปฏิบัติตัวของผู้นวดแผนไทย รักษาสุขภาพให้ดี หากป่วยเป็นโรคแล้วไม่ควรรักษาผู้อื่น ดูแลร่างกายให้สะอาด ตัดเล็บให้สั้น ไม่มีกลิ่นตัว และกลิ่นปาก ไม่ดื่มสุราทั้งก่อนและหลังการนวด เพราะนอกจากไม่เหมาะสมแล้วอาจควบคุมตนเองไม่ได้ สุภาพ สำรวม ไม่ลวนลาม หรือยั่วยวนลูกค้า มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่เลี้ยงไข้ เช่น ถ้าสามารถรักษาโรคนั้นๆให้หายได้ภายใน 1-2 ครั้ง ไม่หลอกลวงว่าต้องนวด 5-6 ครั้ง เพื่อหวังประโยชน์ สถานที่ซึ่งไม่ควรทำการนวด เช่น ริมถนน ใต้โคนต้นไม้ ผับ และโรงพยาบาล ยกเว้นแต่ทางโรงพยาบาลได้จัดให้มีการนวดในแผนกกายภาพบำบัด ฝึกกำลังนิ้วมือให้แข็งแรงและเชี่ยวชาญ การลงน้ำหนักแต่ละรอบ และจังหวะของการลงน้ำหนัก การลงน้ำหนักเพิ่มขึ้นทีละน้อย ทำให้กล้ามเนื้อ สามารถปรับตัวได้ดี ซึ่งการลงน้ำหนักนิ้วมือที่กดมี 3 ระดับ คือ


*น้ำหนักเบา

ประมาณร้อยละ 50 ของน้ำหนัก ที่สามารถลงได้สูงสุดเพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อรู้ตัว ไม่เกร็งรับการนวด


*น้ำหนักปานกลาง

ประมาณร้อยละ 70 ของน้ำหนักที่สามารถลงได้สูงสุด ลงนำหนักเพิ่มขึ้น บนตำแหน่งทีต้องการกด


*น้ำหนักมาก

ประมาณร้อยละ 90 ของน้ำหนักที่สามารถลงได้สูงสุด ลงน้ำหนักมาก และกดนิ่งไว้ พร้อมกับกำหนดลมหายใจสั้น-ยาวตามต้องการ การกดนวตใช้เวลานานเพียงใดขึ้นกับลักษณะของโรค ระยะเวลาที่เป็นและลักษณะของโรคผู้ถูกนวด


การกดโดยใช้ระยะเวลาสั้นเกินไปการรักษาจะไม่ได้ผล การกดนานเกินไปจะทำให้มือผู้นวด และตำแหน่งที่ถูกนวดระบมได้ การวางท่านวดให้เหมาะสมกับผู้ถูกนวดด้วย



ทีมา จากหนังสือ สปาธุรกิจทำเงิน

ภาพจาก themakeupgirl.net