7.30.2553

องค์ประกอบหลักในสปา




องค์ประกอบหลักในสปา
สปา คือ สถานที่ ที่รวมเอาศาสตร์และศิลป์ผนวกกันเพื่อให้ได้สุนทรียภาพของ ความงามและการผ่อนคลายไว้อย่างสมดุล ดังนั้น สปาจึงจำเป็นต้องมีคุณลักษณะ ดังนี้

1.รูป (Form): หมายถึง
สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆตัวเรา ที่สัมผัสได้ด้วยสายตาที่มองเห็น และบ่งบอกได้ถึงความรู้สึกและอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น สีที่เรามองเห็นแต่ละวัน ยกตัวอย่างเช่น สีแดงเป็นสีแห่งพลัง ถ้าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสีแดงมากเกินไป เราจะรู้สึกเหนื่อยจนอาจหมดแรงได้ สีต่างๆ ยังสามารถช่วยในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ ได้อีกด้วย เช่น สีเขียวมีคุณสมบัติในการสมานรอยร้าวของกระดูกได้ รูปที่เราเห็นเราสามารถสัมผัสได้สามารถแสดงอารมณ์และความ รู้สึกที่สร้างสรรค์ สดชื่น และสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับจิตใจของเราได้ สปาที่ ดีจะต้องมีบรรยากาศในเชิงบวกที่รื่นรมย์และเอื้อต่อบริการในทรีตเมนต์ต่างๆ

2.รส (Taste): หมายถึง
รสชาติของอาหาร เป็นสิ่งที่ส่งผลต่ออารมณ์ของคนเราได้เป็นอย่างมากทีเดียว เช่น เมื่อเรากินช็อกโกแลตมากเกินไป ช่วงแรกจะรู้สึกสดชื่นแต่สักพักจะรู้สึกอึดอัดและหงุดหงิด รสตามศาสตร์ของสภาแล้วนอกจากสัมผัสที่อร่อยลิ้นยังต้องดีต่อสุขภาพอีกด้วย

3.กลิ่น(scent): หมายถืง
กลิ่นต่างๆที่เราสัมผัสได้จากโสตประสาทที่ผ่านเข้ามาทางจมูก โลกของเรามีกลิ่นอยู่มากมาย บางกลิ่นก็สามารถแยกได้ว่าเป็น กลิ่นของอะไรมาจากไหน แต่บางกลิ่นก็ไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้ว่าเป็นกลิ่นอะไร
กลิ่นตามศาสตร์ของสปาต้องเป็นกลิ่นที่สร้างความดื่มด่ำฉ่ำชื่นให้กับผู้ที่ได้รับ กลิ่นนั้น กลิ่นของสปา หมายถึง กลิ่นแห่งการบำบัด (Aromatherapy) โดยต้อง เป็นกลิ่นที่ได้มาจากธรรมชาติ เช่น “น้ำมันหอมระเหย (Essential oil)” เมื่อได้สูดดม หรือลูบไล้ กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยจะซึมเข้าสู่ผิวหนัง และมีสรรพคุณในทางบวก ช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายสึกกระตือรือร้น หรือแม้แต่ลดน้ำหนัก ทั้งนี้ขึ้นอยุ่กับคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยกลิ่นและชนิดนั้นๆ

4.เสียง (sound):
เสียงสามารถแทรกซึมเข้าถึงทุกอณูแห่งความรู้สึกของมนุษย์ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากธรรมชาติหรือบทเพลง และเสียง รังสรรค์ออกมาจากความรู้สึกนึกคิดของคน ทำนองเพลงมักจะเกิด
จากแรงขับภายใน ที่เรียกว่า Motif ของผู้แต่ง ทำนองที่มีลีลาเชื่องช้า เคล้า บรรืยากาศเศร้า เรียกว่า Minor mode จะให้ความรู้สึกเศร้า ส่วนทำนองที่ ประกอบไปด้วยจังหวะเร็วในแบบ Major mode ทำให้รู้สึกสดชื่นรื่นเริง เสียงใน สติและดนตรีมีความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์ ระบบประสาท และภูมิคุ้มกันโรค เมื่อคนฟังดนตรีจะเกิดอารมณ์สุขสดชื่น ทำให้เพิ่มระดับเอนดอร์ฟินอันเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างขึ้นช่วยบรรเทาความเจ็บปวด และมีส่วนควบคุมการตอบรับของร่างกายที่มีต่อความเครียด อารมณ์ และการหดตัว ของผนังลำไส้เมื่ออยู่ท่ามกลางเสียงดนตรีเบาๆ เราจึงรู้สึกผ่อนคลายและเข้าสู่ ภาวะสมดุล ศาสตร์แห่งสปาจะให้ความสำคัญต่อเสียงอย่างมาก เสียงที่เรา ได้ฟังนั้น จะต้องเป็นเสียงที่ไม่ทำลายสุขภาพหู ต้องไม่ดังเกินความ สามารถที่ร่างกายจะรับฟังได้ เสียงของธรรมชาติ เช่น เสียงนกร้อง เสียงน้ำตก เสียงลมพัด เป็นเสียงที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจ ดนตรีบางประภท เช่น เพลงบรรเลง นิวเอจ ฯลฯ ฟังแล้วช่วยให้จิตใจสงบ และเสียงเหล่านี้จะช่วยเพิ่ม พลังความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นเวลาเครียด การฟังเพลงจะทำให้เรารู้สึกสบายขึ้น
เพราะสมองถูกเบี่ยงเบน และได้ปรับวงจรใหม่ จะเห็นได้ว่าเสียงและดนตรีนั้น
มีผลทางจิตวิทยาต่อชีวิตจิตใจของคนเราอย่างมาก ดังนั้น สปาที่ดีจะต้องเลือก
นำเสียงต่างๆ มาให้ใช้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านการสร้างบรรยากาศและการ
บำบัดให้เหมาะสมและลงตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ถ้าจะให้ดีผู้
ประกอบธุรกิจสปาควรมีความรู้เรื่องนี้พอสมควร เพื่อนำไปใช้ออกแบบเสียงที่
จะใช้ในสปาได้อย่างเหมาะสม

5.สัมผัส (Touch): หมายถึง
สัมผัสที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของเรา โดยอาจเป็นสัมผัสจากการนวดน้ำมัน หรือ ความรู้สึกนุ่มนวลดุจกำมะหยี่ของดอกไม้ที่เราลอยลงไปในอ่าง จะให้ความ
รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย หรือสัมผัสของสายน้ำเย็นๆ แรง ๆ ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและระบบการล้างพิษของเซลล์ผิว ทำให้ผิวเนียนเรียบขึ้นก็ได้ สัมผัสหลักๆของสภาคือการนวด การนวดทุกประเภทจะช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ทำงานเป็นปกติ ทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีขึ้น และยังช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย การนวดไม่จำเป็นต้องเป็นการนวดด้วยมือเท่านั้น การนอนแช่อ่างน้ำที่มีแรงดันก็สามารถทำให้เราผ่อนคลายได้เช่นกันเมื่อร่างกายได้รับความรู้สึกทั้ง 5 นี้แล้วจะเกิดความรู้สึกเป็นสุข สงบ ผ่อนคลายนั้นก็หมายความว่าร่างกายของเราได้พักผ่อนเต็มที่และเพียงพอต่อความต้องการของระบบต่างๆในร่างกาย และนี่แหละคือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้สปาเป็นสปา

เรียกได้ว่า สปาคือศาสตร์ที่รวมเอา สัมผัสทั้ง 5 ไว้ในที่เดียวกันได้อย่างลงตัวและสมดุลนั่นเอง

7.21.2553

สปาไทย




สปาไทย
สปาไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก สปาไทยมีการนำเอามรดกไทยและความรู้ดั้งเดิมของไทยมาต่อยอด เช่น การอบสมุนไพรไทยด้วย
การอบร่ำประทินผิวแบบไทยๆ การนวดแผนไทย มีการนำสมุนไพรพื้นบ้าน มาประยุกต์ใช้ได้อย่างลง เรียกว่า “Thai Spa” เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของ
สปาไทย ในปัจจุบันในบางประเทศได้นำเทคนิคบำบัดแบบไทยๆ ไปใช้ และภาครัฐก็มีนโยบาย ให้การสนับสนุน และมุ่งพัฒนา
สปาของไทยให้เป็น “Spa capltal of Asia” โดยการเน้นไปที่ 3 ด้านคือ

1. การเป็นศูนย์กลางในการรักษาโรคเฉพาะทาง
2. การนวดแผนโบราณแบบไทยและสปา
3. ผลิตภัณฑ์สุขภาพสมุนไพรไทย

กลยุทธ์ ดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (พ.ศ.2547-2551) เหตุผลใดที่ทำให้สปาไทย ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเข้ามาใช้บริการสปาในประเทศไทยคิดเป็นมูลค่า ปีละกว่า
1,500 ล้านบาท ปัจจุบันในประเทศไทยมีสถานบริการสปาไทย ทั้งสิ้นกว่า 230 แห่งโดยกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย สาเหตุที่สปาไทยเป็นที่นิยมของนานาชาติ พอจะสรุปเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

1. จุดแข็งในเรื่องของสมุนไพร ทั้งในด้านของแหล่งผลิต ความหลากหลาย สภาพภูมิประเทศ และภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทย ที่มีการนำสมุนไพรมาใช้แต่โบราณ ทำให้ไทย
ได้เปรียบชาติอื่นๆในด้านนี้

2. ทรัพยากรทางการท่องเที่ยวของไทย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม หรือสถาปัตยกรรมของไทย ก็ล้วนแต่เป็นทำเลที่ตั้งที่ช่วยเสริม
ให้สปาไทย มีเสน่ห์น่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น

3. การบริการที่นุ่มนวลประทับใจของ Spa Therapist คนไทยจะมีความแตกต่างจากคนชาติอื่นๆ เรื่องความอ่อนโยนของคนไทย มารยาทและมิตรไมตรีแบบไทยๆ
เป็นเอกลักษณ์ที่แท้จริงที่ไม่อาจลอกเลียนแบบได้

4. การนวดแผนไทย เป็นมรดกไทยที่สั่งสมมานาน และสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณถึงปัจจุบัน ซึ่งนำมาผสมผสานเข้ากับศาสตร์สปาไทย ได้อย่างกลมกลืนลงตัว เป็นลักษณะ
พิเศษในสปาไทยที่น่าลุ่มหลง แต่อย่าสับสนกับคำว่า เอกลักษณ์ของสปาไทยกับการให้บริการทรีตเมนต์แบบต่างๆ ไม่ว่าเราจะนำเทคนิคการให้บริการแบบไหนมา
ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการทำทรีตเมนต์แบบยุโรป บาหลี อินเดีย หรือชาติใดๆ ก็ตามเราก็สามารถนำเอกลักษณ์แบบไทยมาผสมผสานเป็นจุดเสริมเพื่อสร้างความประทับใจ
ให้แก่ผู้ใช้บริการได้

5.ศิลปะวัฒนธรรมไทย ทั้งในแง่ของสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ศิลปหัตถกรรม และอื่นๆชึ่งแฝงอยู่ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบอาคาร การจัดสวน การตกแต่งภายใน
ภาชนะข้าวของเครื่องใช้ และอื่นๆ สิ่งที่เราเห็นจนชินตาเหล่านี้ ล้วนเป็นเสน่ห์ความงามแบบไทยไทยที่หลายๆ ชาติชื่นชมและอิจฉา

นอกจากนี้เรายังมีสมาพันธ์สปาทั่วประเทศ จัดตั้งเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2547 ขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของสปาไทย และเพื่อพัฒนาสปาไทยให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
โดยจะใช้ตราสัญลักษณ์เดียวกันทั่วประเทศในชื่อของ “ไทยสปา” เพื่อส่งเสริมการตลาดในต่างประเทศ โดยสภาที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งผู้ประกอบการและ
ผู้ให้บริการจะได้รับโลโก้จากสมาพันธ์ ซึ่งเป็นเสมือนใบรับรองคุณภาพในธุรกิจสปา

7.13.2553

สปาหมายถึงอะไร ?


สปาหมายถึงอะไร ?
สปาคือ รูปแบบการบำบัดที่มีมานานกว่า 4,000 ปีแล้ว มีหลักฐานอ้างอิงที่เก่าแก่ที่สุดที่ คือ สปาที่เมือง
โมเฮนโจ-ดาโร (Mohenjo-Daro) ในประเทศอินเดีย เมื่อราวๆ 2000 ปีก่อนคริสต์กาล สปาจึงจัดว่าเป็น ศาสตร์เก่าแก่ที่สืบทอดกันมานานอีกแขนงหนึ่ง
นอกจากนี้เมื่อประมาณ 1,500 ปีที่แล้ว สปายังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสมัย กรีกโบราณ ในยุคนั้นสภาจัดว่าเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์สำหรับชายหนุ่มยุคนั้น ต่อมาโรมันก็รับเอาวัฒนธรรมการบำบัดแบบนี้มาด้วยและกลายเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่า “RomanBath” หรือ “Taking the waters” นั่นเอง
ในยุคนั้นไม่ได้ใช้คำว่า “ สปา” คำว่าสภามีต้นกำเนิดมาจากชื่อเมืองชื่อ “spau” ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในเบลเยี่ยม ดั้งอยู่ในเทือกเขาแห่งอารเดนเนส (Ardennes Mountains) มีบ่อน้ำพุร้อนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ
และชาวยุโรปนิยมไปพักผ่อนที่นั่นมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 ซึ่งมีการนำน้ำที่มีคุณสมบัติพิเศษนี้มาใช้บำบัดโรค เช่น การแช่ตัว การใช้น้ำร้อนน้ำเย็น การใช้ไอน้ำนวดประคบตัว วิธีการทางธรรมชาติบำบัดเหล่านั้นคือหลักการของสปาที่ช่วยปรับความสมดุลของร่างกายและจิตใจ ทำให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อน

ข้อมูลจากบางแหล่งยังอ้างว่า สปาเป็นมีรากศัพท์มาจากภาษาลาติน
SANUS PER ACQUA มีความหมายดังนี้
S For Salus Heayth = สุขภาพ
P For Per Through. = ด้วย
A For Aqua water = น้ำ
หรือความหมายรวมๆคือ การบำบัดสุขภาพด้วยน้ำ หรือ วารีบำบัด

“ สปา” เป็นคำที่อ้างอิงกับการใช้น้ำเพื่อการบำบัดร่างกายเพื่อให้เกิดความสมดุล
ผ่อนคลายและสบายตัวโดยมีการใช้น้ำบำบัดในรูปแบบต่างๆ เช่น น้ำแร่ เป็นต้นทั้งนี้
เพื่อมีผลต่อผิวหนังและร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณดีชึ้น ช่วยในการไหลเวียนโลหิต ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้น้ำอุ่น ในปัจจุบันรูปแบบสภาได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมและกาลเวลา และได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ละยังมีการนำเอาศาสตร์บำบัดในแต่ละท้องถิ่นมาผสมผสานเพิ่มเติมเกิดเป็นการบำบัดในแบบต่างๆอีกด้วย

สปาจึงไม่ได้เป็นแค่การฟื้นฟูสุขภาพด้วยน้ำ (วารีบำบัด) เพื่อให้ผู้มาใช้บริการได้ชื่นชมในประสาท สัมผัสห้า ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง และ สัมผัส ซึ่งจะประกอบด้วย ทรีตเมนต์ (Treatment) หลัก 4 อย่าง คือ การนวดแบบต่างๆ การทรีดเมนต์หน้า ทรีตเมนต์ตัว และ ทรีตเมนต์โดยใช้เครื่องมือแบบต่างๆ

หรืออาจจะสรุปได้ว่า สปา คือ การบำบัดด้วยน้ำเข้ากับวิธีการบำบัดนเบบอื่นๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น เช่น ในบาหลีมีการนวดแบบ Stone Massage โดยนำหินลาวามานวดคลึงเส้นเบาๆ ทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายตัว หรือ แบบรัสเชีย ก็มีทรีตเมนต์ที่เรียกว่า Banya เป็นการบำบัดแบบพื้นบ้านของรัสเซียโดย ใช้ไอร้อนจากน้ำมาขับเหงื่อเพื่อขจัดของเสียออกจากร่างกาย อย่างนี้เป็นต้น แต่ไม่ว่ารูปแบบจะแตกต่างกันอย่างไร
หัวใจหลัก ของธุรกิจสปาก็ยังคงเหมือนเดิม นั่นคือการให้บริการที่เป็นเหมือนการ
ฟื้นฟูสุขภาพให้สดชื่นและผ่อนคลาย เหมือนเป็นการชาร์ตแบตเตอรี่ให้ผู้คนกลับมามี ความสุขกาย สบายใจ นั่นเอง